วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Central World Forever Cabriolet

ผ่านไปแล้วครับกับ มหกรรมสุดยอดรถยนตร์ รุ่นหายาก และเป็นที่นิยมตลอดกาล Central World Forever Cabriolet ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้า Central World วันที่ 24-27 เมษายน ที่ผ่านมา ที่ได้รวบรวมรถคลาสสิค ยุค 50 ถึง ยุค 70 นำมาแสดง ทางทีมงาน vrclassiccar ได้รวบรวมภาพรถคลาสสิค ที่นำมาแสดงภายในทั้ง 25 คัน พร้อมทั้งข้อมูลรถแต่ละคัน และบรรยากาศภายในงานมาให้ท่านได้ชม คลิ๊กที่รูปรถแต่ละกันเพื่อดูภาพในหลายๆ มุม
รูปภาพบรรยากาศภาพในงานรถคลาสสิค


Austin Sheerline A125 ปี 1948


BMW 502 ปี 1955


Bentley S1 ปี 1955





The Glossy Heritage Award 2008

  สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทยจับมือสยามพารากอนจัดงานประกวดรถโบราณครั้งยิ่งใหญ่รวมรถโบราณ และรถคลาสสิคเกือบ 200 คัน มูลค่ากว่า 360 ล้านบาท พร้อมจัดกิจกรรมน่าสนใจตลอด 5 วัน ยกระดับเทียบเท่านานาชาติหวังให้เป็นเทศกาลประจำปีดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วเอเชีย
   ทาง vrclassiccar ได้เก็บภาพรถคลาสสิค มากมายมาฝากทุกท่านที่สนใจ พร้อมนำเสนอข้อมูลรถเท่าที่หาได้ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดทางเราขออภัยมา ณ ที่นี่


  นายจรัญ ผู้พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ สำนักสื่อสารการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ นายสมบัติ โสตถิวรนันท์ รักษาการนายกสมาคมรถคลาสสิคแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ร่วมกับ สมาคมรถคลาสสิคแห่งประเทศไทย จัดงาน “CLASSIC CAR EXPOSITION ” ครั้งที่ 5 ขึ้น
    ปีนี้เน้นคอนเซ็ปต์รถคลาสสิคหายากในยุค 50’s - 70’s โดยประชาชนทั่วไปจะได้ชื่นชมรถประวัติศาสตร์สุดยอดความอลังการครั้งแรกในเมืองไทยกับอดีตรถพระที่นั่งของกษัตริย์เฟอร์ดินานด์แห่งโรมาเนีย Mercedes-Benz 630 K / SS ปี 1927 อายุ 81 ปี ผลิตขึ้นโดย Harrington of London และ รถหรูหายากอีกกว่า 100 คัน

carexposition

    อาทิ Mercedes-Benz 170V Cabriolet B ปี 1938 อายุ 70 ปี(สุดยอดรถคลาสสิคมีเพียงคันเดียวในเมืองไทย), Mercedes-Benz 220 Coupe ปี 1951 อายุ 57 ปี (รถหายากมีเพียง 85 คัน ในโลก), Mercedes-Benz 220 Cabriolet A ปี 1954 อายุ 54 ปี(มีเพียง 2 คันในเมืองไทย และ1,250 คันทั่วโลก), BMW 502 ปี 1955 อายุ 53 ปี (อดีตรถคันโปรดของเชื้อพระวงศ์ในราชสกุลกิตติยากร), Ford Thunder Bird 55 ปี 1957 อายุ 51 ปี(รถรุ่นเดียวกับ Elvis Presley และ Marilyn Monroe), Jaguar E-Type Roadster ปี 1969 อายุ 39 ปี (เป็นรถสปอร์ตคลาสสิคที่นักสะสมกำลังตามล่าในปัจจุบัน), Jaguar 420 G ปี 1969 อายุ 39 ปี (มีเพียง 6,000 คันในโลก), Lotus Esprit (John Player Special) ปี 1977 อายุ 31 ปี(รถสปอร์ตที่ถูกผลิตขึ้นเป็นพิเศษ), Rolls-Royce Silver Writh II ปี 1979 อายุ 29 ปี (อดีตเป็นรถยอดเยี่ยมที่สุดในโลก) ฯลฯ
     นอกจากนี้จะได้พบกับรถคลาสสิค ดีไซน์เก๋อีกมากมาย อาทิ รถ Bubble Car หรือ รถการ์ตูน จากเจษฎาเทคนิค มิวเซียม, รถญี่ปุ่นย้อนยุค, มอเตอร์ไซด์ ฮาเล่ย์ คลาสสิค ฯลฯ ชมการประกวดภาพถ่ายรถคลาสสิค จากช่างภาพฝีมือเยี่ยม ในโครงการ Classic Car National Photo Contest 2008 พร้อมสนุกสนานเพลิดเพลิน ท่ามกลาง บรรยากาศ สีสัน และ บทเพลงไพเราะ ในยุค 50’s - 70’s จากวง Green Apple ตลอดงาน สำหรับพิธีเปิดงาน “CLASSIC CAR EXPOSITION ” อย่างเป็นทางการจะจัดให้มีขึ้น ในวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2551 เวลา 16.00 น. โดยได้รับเกียรติจาก ท่านองคมนตรี พล.ร.อ.ม.ล.อัศนี ปราโมทย์ เป็นประธานในพิธีเปิดฯ

carexposition

เศรษฐียุโรปควัก 12 ล้าน ประมูลซาก “Bugatti” จมน้ำนาน 73 ปี

“Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 จมน้ำในสภาพนอนตะแคง ด้านหนึ่งจมอยู่ใต้โคลน
ขึ้นชื่อว่าเป็นรถ โบราณล้ำค่าหายาก ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใดก็ยังคงมีคุณค่า มีราคา และเป็นที่ต้องการของบรรดาเศรษฐีนักสะสมเสมอ เช่นเดียวกับรถโบราณหายาก “Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 (พ.ศ. 2468) คันนี้ ที่แม้จะจมอยู่ใต้น้ำนานเกือบศตวรรษจนมีสภาพที่ผุพัง แต่ก็ยังมีเศรษฐีใจป้ำควักกระเป๋าประมูลไปในราคาสูงถึง 12 ล้านบาทเลยทีเดียว
ซากรถยนต์ “Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 (พ.ศ. 2468) ที่จมอยู่บริเวณก้นทะเลสาป Maggiore ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์มานานถึง 73 ปี ถูกเศรษฐีนักสะสมรถยนต์ในยุโรปประมูลไปในราคาสูงถึง 260,500 ยูโรหรือกว่า 12 ล้านบาท ภายในงานประมูลรถยนต์  “Retromobile” ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันการประมูล Bonhams ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ด้านนี้จมอยู่ใต้โคลน
หลังจมอยู่ใต้น้ำลึก 49 เมตร มานาน 73 ปี ในที่สุดรถยนต์ “Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 ก็ถูกนักดำน้ำที่มีชื่อว่า เจนส์ โบเออร์ลิน และเพื่อนๆ ในชมรมดำน้ำ “Ascona” กู้ซากขึ้นมาจากก้นทะเลสาปจนปรากฏเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก เมื่อวันที่ 12 กรกฏาคมปีที่แล้ว
หลังจากนั้น พวกเขาประกาศว่าจะนำ ซากรถยนต์ “Bugatti Brescia” คันนี้ออกประมูลผ่านทางสถาบันการประมูล Bonhams โดยจะนำรายได้สมทบกองทุน ‘Fondazione Damiano Tamagi’ เพื่อรณรงค์ยุติการใช้ความรุนแรงในหมู่วัยรุ่น กองทุนดังกล่าวถูกก่อตั้งขึ้นหลังจากเพื่อนสมาชิกคนหนึ่งในชมรม ที่มีชื่อว่า Damiano Tamagi ถูกวัยรุ่น 3 คนรุมทำร้ายอย่างทารุณจนถึงขั้นเสียชีวิต เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2008
ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันว่าซากรถ คันดังกล่าว น่าจะทำราคาได้ประมาณ 70,000 – 90,000 ยูโร (3-4 ล้านบาท) ผลปรากฏว่าหลังเปิดประมูลมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูล (ซาก) รถคันนี้อย่างล้นหลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้าร่วมเสนอราคาประมูลทางโทรศัพท์ ส่งผลให้ราคาทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกินความคาดหมาย
ผู้ชนะการประมูลในครั้งนี้เป็นนักสะสม รถยนต์ชาวยุโรป เขามีแผนที่จะนำรถ “Bugatti” คันนี้ ไปจัดแสดงในสภาพเดิมๆ โดยไม่ตัดแปลงแก้ไข ส่วนผู้เข้าประมูลชาวอเมริกันอีกคนที่เสนอราคาขับเคี่ยวกันมาตั้งแต่ต้นแล้ว ยอมแพ้ ตั้งใจว่าจะชุบชีวิตรถยนต์ “Bugatti Type 13 Brescia” ขึ้นมาใหม่ให้มีสภาพดังเดิม

ด้านนี้อยู่เหนือโคลนเลยถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย
อย่างไรก็ตาม บอดี้ของรถคันนี้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น การที่จะคืนสภาพซากรถคันนี้ให้กลับมาเป็นรถโบราณล้ำค่าสีน้ำเงินที่สามารถ ขับโฉบได้เหมือนของแท้และดั้งเดิม จะต้องใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 4.5 ล้านบาท ซึ่งพอๆ กับการผลิตขึ้นใหม่ให้เป็นรถ replica (ผลิตใหม่ทั้งคันให้เหมือนรถที่นำมาเป็นต้นแบบ) เลยทีเดียว
เชื่อกันว่า รถยนต์ “Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 คันนี้ เป็นของสถาปนิกลูกครึ่งชาวสวิส-โปแลนด์ ที่มีชื่อว่า นายแม็ก ชูมักเลอร์สกี้ เขาจอดรถคันนี้ทิ้งไว้ในโรงรถของบริษัทผู้รับเหมาแล้วหายตัวไป ทำให้ผู้รับเหมาเดือดร้อนเพราะโดนทางการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ ด้วยความโมโหและรำคาญเขาจึงเข็นรถคันดังกล่าวทิ้งลงไปในทะเลสาปเมื่อปี ค.ศ. 1936 (พ.ศ. 2479)
ชมภาพรถยนต์  “Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 คันที่จมน้ำ และ รถยนต์  “Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 ของแท้และดั้งเดิมที่ถูกเก็บรักษาอย่างดี และถูกนำไปอวดโฉมภายในงานแสดงรถ Pebble Beach Concours d’Elegance 2009

เตรียมประมูลรถโบราณสุดหรู “เดอลาเฮย์ 1938″ ที่โมนาโก

“เดอลาเฮย์” รุ่นปี 1938  รถแข่งโบราณล้ำค่าหายาก และเป็นที่หมายปองของบรรดาเศรษฐีนักสะสม กำลังจะถูกนำออกประมูลโดยผ่านทางสถาบันการประมูลอาร์เอ็ม อ็อคชั่นส์ ที่ประเทศโมนาโก ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้
รถยนต์ “เดอลาเฮย์” (Delahaye) รุ่นปี 1938  (พ.ศ. 2481) เป็นรถแข่งรุ่นแรกที่ถูกผลิตขึ้นหลังมีการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท  เดอ แลงเกอ และเดอลาเฮย์ เมื่อปี ค.ศ. 1935 (พ.ศ. 2478) โดยเป็นรถที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งจากการแข่งขันในสนามออโตโดรม เดอ มองเตอร์เลห์รี และสนามเลอมังส์
บอดี้ของ “เดอลาเฮย์ 1938″ คันที่นำมาประมูลในครั้งนี้ เป็นผลงานการผลิตของ  Figoni & Falashi (ผู้ผลิตตัวถังรถยนต์ในประเทศอิตาลีที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี) ภายในห้องโดยสารและเบาะนั่งตกแต่งใหม่ด้วยหนังแท้สีแดงคุณภาพเยี่ยมโดยแอร์เมส  (Hermès) แทนที่เบาะนั่งสไตล์รถแข่งของแท้และดั้งเดิมที่ได้รับความเสียหายซึ่งออกแบบตกแต่งโดยแอร์เมส  (Hermès) เช่นกัน
นอกจากความหรูหรา สง่างาม และมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานตามแบบฉบับรถคลาสสิกโบราณแล้ว “เดอลาเฮย์ 1938″ คันนี้ยังเป็นรถสมรรถนะสูง ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ ความจุ 3,557 ซี.ซี. ขุมพลังเต็มเปี่ยมที่ 160 แรงม้า ให้ความเร็วสูงสุด 110 ไมล์ (177 ก.ม.) ต่อชั่วโมง
การประมูลรถ “เดอลาเฮย์” (Delahaye) รุ่นปี 1938  (พ.ศ. 2481) ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจทั่วไปได้เข้าร่วมประมูล ซึ่งคาดว่าน่าจะทำราคาประมูลได้ประมาณ 1.7-2 ล้านยูโร (กว่า 74-87 ล้านบาท) โดยมาพร้อมเครื่องยนต์สำรอง “135 MS” รุ่นหลังสงครามโลก และเบาะนั่งสไตล์รถแข่งของแท้และดั้งเดิม แต่ผู้ชนะการประมูลจะต้องเดินทางไปรับรถและของที่สหรัฐอเมริกา โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วยตัวเอง