วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เศรษฐียุโรปควัก 12 ล้าน ประมูลซาก “Bugatti” จมน้ำนาน 73 ปี

“Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 จมน้ำในสภาพนอนตะแคง ด้านหนึ่งจมอยู่ใต้โคลน
ขึ้นชื่อว่าเป็นรถ โบราณล้ำค่าหายาก ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใดก็ยังคงมีคุณค่า มีราคา และเป็นที่ต้องการของบรรดาเศรษฐีนักสะสมเสมอ เช่นเดียวกับรถโบราณหายาก “Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 (พ.ศ. 2468) คันนี้ ที่แม้จะจมอยู่ใต้น้ำนานเกือบศตวรรษจนมีสภาพที่ผุพัง แต่ก็ยังมีเศรษฐีใจป้ำควักกระเป๋าประมูลไปในราคาสูงถึง 12 ล้านบาทเลยทีเดียว
ซากรถยนต์ “Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 (พ.ศ. 2468) ที่จมอยู่บริเวณก้นทะเลสาป Maggiore ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์มานานถึง 73 ปี ถูกเศรษฐีนักสะสมรถยนต์ในยุโรปประมูลไปในราคาสูงถึง 260,500 ยูโรหรือกว่า 12 ล้านบาท ภายในงานประมูลรถยนต์  “Retromobile” ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันการประมูล Bonhams ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ด้านนี้จมอยู่ใต้โคลน
หลังจมอยู่ใต้น้ำลึก 49 เมตร มานาน 73 ปี ในที่สุดรถยนต์ “Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 ก็ถูกนักดำน้ำที่มีชื่อว่า เจนส์ โบเออร์ลิน และเพื่อนๆ ในชมรมดำน้ำ “Ascona” กู้ซากขึ้นมาจากก้นทะเลสาปจนปรากฏเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก เมื่อวันที่ 12 กรกฏาคมปีที่แล้ว
หลังจากนั้น พวกเขาประกาศว่าจะนำ ซากรถยนต์ “Bugatti Brescia” คันนี้ออกประมูลผ่านทางสถาบันการประมูล Bonhams โดยจะนำรายได้สมทบกองทุน ‘Fondazione Damiano Tamagi’ เพื่อรณรงค์ยุติการใช้ความรุนแรงในหมู่วัยรุ่น กองทุนดังกล่าวถูกก่อตั้งขึ้นหลังจากเพื่อนสมาชิกคนหนึ่งในชมรม ที่มีชื่อว่า Damiano Tamagi ถูกวัยรุ่น 3 คนรุมทำร้ายอย่างทารุณจนถึงขั้นเสียชีวิต เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2008
ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันว่าซากรถ คันดังกล่าว น่าจะทำราคาได้ประมาณ 70,000 – 90,000 ยูโร (3-4 ล้านบาท) ผลปรากฏว่าหลังเปิดประมูลมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูล (ซาก) รถคันนี้อย่างล้นหลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้าร่วมเสนอราคาประมูลทางโทรศัพท์ ส่งผลให้ราคาทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกินความคาดหมาย
ผู้ชนะการประมูลในครั้งนี้เป็นนักสะสม รถยนต์ชาวยุโรป เขามีแผนที่จะนำรถ “Bugatti” คันนี้ ไปจัดแสดงในสภาพเดิมๆ โดยไม่ตัดแปลงแก้ไข ส่วนผู้เข้าประมูลชาวอเมริกันอีกคนที่เสนอราคาขับเคี่ยวกันมาตั้งแต่ต้นแล้ว ยอมแพ้ ตั้งใจว่าจะชุบชีวิตรถยนต์ “Bugatti Type 13 Brescia” ขึ้นมาใหม่ให้มีสภาพดังเดิม

ด้านนี้อยู่เหนือโคลนเลยถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย
อย่างไรก็ตาม บอดี้ของรถคันนี้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น การที่จะคืนสภาพซากรถคันนี้ให้กลับมาเป็นรถโบราณล้ำค่าสีน้ำเงินที่สามารถ ขับโฉบได้เหมือนของแท้และดั้งเดิม จะต้องใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 4.5 ล้านบาท ซึ่งพอๆ กับการผลิตขึ้นใหม่ให้เป็นรถ replica (ผลิตใหม่ทั้งคันให้เหมือนรถที่นำมาเป็นต้นแบบ) เลยทีเดียว
เชื่อกันว่า รถยนต์ “Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 คันนี้ เป็นของสถาปนิกลูกครึ่งชาวสวิส-โปแลนด์ ที่มีชื่อว่า นายแม็ก ชูมักเลอร์สกี้ เขาจอดรถคันนี้ทิ้งไว้ในโรงรถของบริษัทผู้รับเหมาแล้วหายตัวไป ทำให้ผู้รับเหมาเดือดร้อนเพราะโดนทางการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ ด้วยความโมโหและรำคาญเขาจึงเข็นรถคันดังกล่าวทิ้งลงไปในทะเลสาปเมื่อปี ค.ศ. 1936 (พ.ศ. 2479)
ชมภาพรถยนต์  “Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 คันที่จมน้ำ และ รถยนต์  “Bugatti Type 13 Brescia” รุ่นปี 1925 ของแท้และดั้งเดิมที่ถูกเก็บรักษาอย่างดี และถูกนำไปอวดโฉมภายในงานแสดงรถ Pebble Beach Concours d’Elegance 2009

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น