วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ย้อนอดีตโบราณ (ความรู้)

ในสมัยรัชกาลที่ 5 ถือว่าเป็นยุคแรกที่ใช้รถยนต์กันอย่างแพร่หลายตามท้องถนนเมืองไทยเคียงคู่ไปกับรถลาก รถม้า โดยมีชาวต่างชาติเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย แต่พอมาสมัยรัชกาลที่ 7 รถถูกส่งกลับไปต่างประเทศหมด อย่างเช่น เดอลาเฮย์ (DELAHAYE) ,อวีอองส์ (AVISIN ), วัวแซง (VOISIN ) เมืองไทยนิยมใช้กันมาก แต่หลังจากนั้นจอดทิ้งไว้ก็ไม่มีใครอยากได้

แต่ด้วยใจรักของคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นคุณค่าของรถโบราณ จึงเสาะแสวงหาซากรถเก่ามาบูรณะใหม่ โดยควักเงินจากกระเป๋าของตนเอง เพื่อจะชุบชีวิตให้รถคันนั้นกลับมามีสภาพเหมือนเดิม ทั้งนี้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสเห็นและสัมผัสคันจริง ๆ ไม่ใช่เห็นแต่รูปถ่ายในนิตยสาร นอกเหนือจากความชอบส่วนตัว

พร้อมกันกลุ่มคนเหล่านี้ได้จัดตั้งสมาคมรถโบราณขึ้นมา ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ทั้งผู้ที่เป็นเจ้าของรถโบราณอยู่แล้ว ตลอดจนผู้ที่นิยมชมชอบแต่ยังมิได้เป็นเจ้าของเกิดความตระหนักในคุณค่าทางประวัติศาสาตร์ของรถโบราณ และกระตือรือร้นที่จะบำรุงรักษารถยนต์อย่างถูกวิธี

"สมาคมรถโบราณก่อตั้งมาประมาณ 35 ปี สมัยก่อนเป็นแค่ชมรม และเมื่อ 6 ปีที่แล้วได้เกิดเหตุการณ์เครื่องบินตกจึงทำให้คณะกรรมการเสียชีวิตไป 2 คน สมาชิกที่เหลือจึงให้ผมทำหน้าที่รักษาการนายกสมาคมไปพลางๆ ก่อน ซึ่งตอนนั้นยังใช้ชื่อสมาคมว่า "ชมรมรถโบราณลุฟท์ฮันซ่า-คาสตรอล" และเพิ่งมาเปลี่ยนเป็นสมาคมโดยการจดทะเบียนเมื่อปีที่ผ่านมา โดยนายกคนแรกก็คือ พ.ต.อ. แสวง จิรานุวัฒน์ และหลังจากนั้นมีการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการและ ผมได้มีโอกาสรับเลือกเป็นนายก" ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย

ดังนั้นรถโบราณที่ว่าหาดูยาก คงไม่ยากอีกต่อไป ที่สำคัญเราได้มีโอกาสชม สัมผัส อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ได้จัดการประกวดรถโบราณขึ้นเป็นประจำทุกปี ในปีนี้ก็เช่นกัน โดยงานจะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม ที่จะถึงนี้ และจัดเป็นครั้งที่ 28 แล้ว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น